สารพันปัญหา หัวฉีด
หัวฉีดค้าง ล้างหัวฉีด ล้างถังน้ำมัน
สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน วันนี้จะขอเขียนเรื่องหัวฉีด อุปกรณ์ที่เป็นจุดเล็กๆแต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่
สำหรับผม รวมถึงเป็นจุดควรระวังสำหรับท่านที่มีรถที่จอดเอาไว้นานๆ
ก่อนอื่นผมขอเกริ่นก่อนว่า ผมมี volvo 850 อยู่คันหนึ่งสภาพผ่านกาลเวลาจากปี 1994 มาจนปัจจุบัน
ในช่วงท้ายๆของการใช้งาน เกียร์ออโตเมติคเริ่มมีปัญหา ประกอบกับผมมีรถที่สามารถใช้ทดแทนได้
หลายคันจึงตัดสินใจ "จอดดอง" เพื่อรอจัดหาเกียร์ธรรมดามายกเปลี่ยน ซึ่งปัจจุบันเกียรธรรมดา
ก็มากองรออยู่แล้ว เหลือก็แต่สิ่งละอันพันละน้อยที่ต้องสั่งซื้อและหาเวลายกเกียร์ออโต้ที่รวนลง
ในระหว่างจอดดองเพื่อให้ครบพรรษา ก็มักจะมีการสตาร์ทอุ่นเครื่องทั่วไป โดยปกติก็มักจะวันเว้นวัน
หรือในบางช่วงก็สตาร์ททุกวัน และจังหวะนี้เองที่ปัญหาเริ่มเกิดขึ้น เมื่อผมเริ่มพบว่า รถสตาร์ทยากขึ้น
จากที่บิดกุญแจแล้วติดเลย ก็เริ่มติดยาก และอาการทรุดหนักลงเร็วมาก จนกลายเป็นติดแล้วเครื่องเดินไม่เรียบ สุดท้ายก็ไม่ติดอีกเลย
ถามสิว่าเซ็งมั้ย ?? วิ่งได้ไม่ดียังสตาร์ทไม่ติดอีก เอาเข้าไป การตรวจสอบเบื้องต้น ผมก็ทำแบบง่ายๆ
ถอดหัวเทียนมาดูซิ ไฟสปาร์ค หรือไม่ คำตอบที่ได้ชัดเจนมากครับ
สงสัยหัวเทียนบอด....
หัวเทียนบอดสนิทจนต้องร้อง ไอ้หย๋า ชิกหายละ หลังจากเอาหัวเทียนมานั่งส่องดูก็พบว่า มีลักษณะของการกร่อนที่ตัวขั้วอิเลคโทรดด้วย อาจจะเป็นเพราะรถจอดนาน ไอ้เจ้าเขม่าน้ำมันบนหัวลูกสูบมันก็หาที่หาทางระเหยไปกัดกร่อนขั้ว ไม่เป็นไร ลองล้างดูก่อน ปรากฏเครื่องก็ยังติดบ้างไม่ติดบ้าง
ถอดหัวเทียนมาดูอีกที จากที่เคยมีกลิ่นน้ำมันตอนนี้ กลายเป็นแห้งสนิท เอ้า..งง ใน งง
หลังจากหัวเสียกับเจ้าวอลโว่นี่ก็ให้เวลาตัวเองไปนอนหนึ่งวันค่อยมาทำใหม่ มาวันนี้สตาร์ทอีกครั้ง
เที่ยวนี้ได้กลิ่นน้ำมันเบนซินหึ่งออกมา ทั้งๆที่ไม่ได้ถอดหัวเทียน ไปกันใหญ่แล้ว เรื่องมันชักจะแปลกๆ
ลองสวมวิญญาณสุนัขตำรวจ ดมๆกลิ่น ก็ต้องแปลกใจที่มันมาจากใต้รถ เมื่อก้มไปดูต้องอุทานออกมาทันทีว่า เห้ละ เพราะน้ำมันเบนซินมาหยดตึ๋งๆออกมาจากยางรัดท่ออินเตอร์คูลเลอร์
มันมาอย่างไร หมายความว่า น้ำมันจากถังน้ำมันของผม ถูกปั๊มอัดออกมาจนท่วมท่อไอดี ??
คิดแล้วขนลุก เพราะในบางกรณีที่น้ำมันท่วมแล้วฝืนสตาร์ท อาจทำให้ก้านสูบงอได้เนื่องจากน้ำมัน ไม่สามารถบีบอัดตัวได้มากเท่าอากาศ
เรกูเลเตอร์รั่ว !!
เมื่อทำการทดสอบดูก็พบว่า ไอ้เจ้าเรกูเลเตอร์ หรือวาล์วกักน้ำมัน มันรั่วจากแผ่นไดอะแฟรม ซึ่งเป็นเหมือนแผ่นยางที่อยู่ภายในเกิดเสื่อมสภาพ เรื่องตลกร้ายก็คือ เรกูเลเตอร์นี้มีท่ออากาศที่ต่อมาจากท่อไอดี เพื่อให้แรงดูด หรือแรงดันไป กดแผ่นไดอะแฟรมนี้ ทีนี้เมื่อแผ่นไดอะแฟรมรั่ว น้ำมันจึงวิ่งออกไปตามท่ออากาศเข้าสู่ท่อไอดีแทน นั่นเป็นเหตุให้น้ำมันเบนซินไหลไปจนนองออกที่ท่ออินเตอร์คูลเลอร์ด้านล่างเอาหละไปเสาะหา เรกูเลเตอร์มาเปลี่ยน เคราะห์ดีผมมีเครื่องตัวนี้สำรองไว้เรียกได้ว่าซื้อเครื่องเพื่อเอาเกียร์นั่นหละไปถอดสลับอะไหล่เป็นอันจบเรื่อง.. แต่เรื่องมันไม่จบง่ายๆนี่สิ เพราะหลังจากเรกูเลเตอร์กลับมาทำงานเรียบร้อย หัวฉีดก็ฉีด แต่น้ำมันมันท่วมแทน ถอดหัวเทียนออกมานี่เปียกโชก เอาไฟส่องเข้าไปที่ลูกสูบถึงกับผวา เพราะมันกลายเป็นกระติกน้ำไปเรียบร้อย
หัวฉีดค้าง เป็นคำตอบที่แน่นอนในเรื่องนี้ แต่จะค้างเพราะอะไร ความเก่า เศษตะกอน หรือเหตุผลอื่น
ก็ต้องถอดออกมาดูกัน หลังเลิกงานเช่นเคย ผมกลับมาถอดหัวฉีดออก และก็เป็นอย่างที่คิด คือมีคราบ
ความเหนียวเยิ้มและ เศษต่างๆเกาะอยู่เต็มไปหมด คงต้องส่งไปล้าง แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น
เพราะเศษต่างๆที่ว่านี่มาจากไหนละ ก็ต้องถังน้ำมันไง
สภาพท่อไหลกลับท้ายรางหัวฉีด
ล้างถังน้ำมัน !!
เรื่องมันชักไม่สนุก เพราะเมื่อผมรื้อต่อไป ก็เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ท่อเข้ารางหัวฉีดมีสนิมเกาะภายใน ผลพวงจากการ จอดดองเริ่มอิ่มตัวหละครับงานนี้ ในระหว่างนี้ก็หาผู้ช่วยเข็นเจ้า Volvo รถถังนี้ ไปยังบริเวณที่จะซ่อมบำรุง เพราะสุดท้ายผมตัดสินใจยกถังน้ำมันลงมาล้าง ขั้นตอนก็คือการลัดวงจรเดินปั๊มนำ้มันในถังดูดน้ำมันออกให้ได้มากที่สุดเพื่อลดน้ำหนักที่เราต้องแบกมันออกมา จากนั้นก็ปลดสายไฟปั๊ม สายไฟลูกลอย สายน้ำมันต่างๆ และยกถังลง สำหรับถังน้ำมันของรถผมคันนี้ผลิตจากพลาสติก ดังนั้นสนิมที่เกิดขึ้นคงไม่พ้นว่ามาจากตัวเรือนปั๊ม และเมื่อถอดปั๊มออก ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดสนิมเขรอะทั้งตัว กรองหยาบก็เสื่อมสภาพ
ยังไม่รวมถึงกรองละเอียดอีกตัวที่ก็มีคราบเยิ้มเหนียวติดตามท่อน้ำมันด้วย
ผมตัดสินใจเปลี่ยนปั๊มน้ำมันและสายน้ำมันใหม่ ในส่วนของตัวถังน้ำมันนั้น ก็พยายามล้าง เพราะมองลงไปเห็นคราบติดหนึบที่นอนก้นอยู่ แต่ถึงแม้จะขัดด้วยฝอยขัดหม้อ และน้ำมันเบนซินก้นถัง
คราบเหล่านั้นก็ยังไม่ออก จึงลองเปลี่ยนเป็นน้ำยาล้างเครื่อง ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะออก แต่ผลที่ได้กลับทำให้แปลกใจ คราบต่างๆออกอย่างง่ายดาย เดาว่ามันคงเป็นด่าง หรือไม่ก็กรด หรือไม่ก็มีสารลดแรงตึงผิวที่สูง จึงกลายเป็นงานง่ายไปเสียดื้อๆ หลังจากล้างคราบกรังต่างๆ ก็ล้างน้ำ เอาลมเป่าทิ้งไว้ให้แห้ง
สภาพภายในถังก่อนล้าง มีคราบของตะกอนและเบนซินที่เหนียวติดก้นถัง
สภาพตอนล้างแล้วเห็นสีพลาสติกดำขึ้นมาบ้าง
ล้างหัวฉีด !!
เอาหละเจอปัญหาต้นน้ำไปแล้ว เรามาดูกันที่ปลายน้ำบ้าง หัวฉีดที่ถอดออกมา มองด้วยตาเปล่าก็บอกได้เลยว่าน่วมแน่ๆ เพราะมีน้ำมันเหนียวเยิ้มติดที่ฝาครอบปลายหัวฉีด เมื่อแกะฝาครอบออก ก็ยิ่งเห็นความเละเทะ ผมถ่ายขยายมาให้ เอาเป็นว่าให้ภาพมันฟ้องก็แล้วกัน สภาพนี้จะไปฉีดออกเป็นฝอยคงไม่ได้ เอาหละในส่วนของการล้างหัวฉีดผมใช้สเปรย์ล้างคาร์บูเรเตอร์เป็นหลัก ขั้นตอนนั้นต้องมีปากคีบไฟฟ้าตัวเล็ก คีบขั้วของหัวฉีด แล้วแตะกับแบตเตอร์รี่ รัวๆ เพื่อให้หัวฉีดมันยก และระหว่างนั้นก็ฉีดสเปรย์ล้างเข้าไป เพื่อให้น้ำยาล้างถูกฉีดออกมา ใครงง...เสิร์ชเลย ครับ how to diy injector clean อะไรทำนองนี้ ยุคนี้อินเทอร์เนตช่วยเราได้มาก แต่วิธีอาจไม่ดีเท่าส่งล้างตามร้าน เพราะเค้าล้างกันด้วย
เครื่องอัลตร้าโซนิค ที่สามารถเขย่าอณูของคราบไคลให้หลุดได้หมด
มาถึงตอนนี้ สิ่งปฏิกูลต่างๆที่หมักหมม อยู่ในหัวฉีด ก็ทยอยพรั่งพรูกันออกมา ผมใช้เวลาล้างแต่ละหัวค่อนข้างนาน และหมดสเปรย์ไปหลายกระป๋อง เศษต่างๆออกมาเต็มถาดรองไปหมด
ก็คาดหวังว่าเมื่อล้างเสร็จทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพ ซึ่งถ้าจะเอาแบบเป็นการเป็นงานจริงๆ
ก็ควรจะส่งร้านล้างหัวฉีด และเทสท์ว่า แต่ละหัวมีปริมาณการฉีดเท่ากันหรือไม่ ฝอยละอองที่ออกมา
สม่ำเสมอเท่ากันหรือไม่ แต่สำหรับผมขอแค่สตาร์ทให้ติดวอร์มไปวันๆก่อนครับ เอาหละเราไปดูเศษ
ต่างๆที่ออกมาจากหัวฉีดกัน
แน่นอนว่าเรื่องที่บรรยายมาทั้งหมดผมยังต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วย เพราะการที่
น้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปท่วมในห้องเผาไหม้ น้ำมันเหล่านั้นจะซึมลงร่องแหวนลูกสูบ ไหลลงสู่อ่างน้ำมันเครื่อง ใครที่มีอาการแบบนี้อย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วย ส่วนใครที่สงสัยว่าหัวฉีดค้างบ้างหรือเปล่า ลองเปิดฝาช่องเติมน้ำมันเครื่องดมๆดูบ้างก็ได้ เพราะถ้ามีกลิ่นฉุนของน้ำมันเชื้อเพลิงโชยออกมาหละก็
คุณคือผู้โชคดีครับ ...
ผมทยอยประกอบทุกๆอย่างกลับ กินเวลาพอสมควร เพราะถังน้ำมันค่อนข้างจะมีความจุมาก และด้วยความที่ถังเป็นพลาสติกจึงมีอาการบวมเล็กน้อยทำให้ใส่กลับในตำแหน่งเดิมยากพอควร
หลังจากนั้น ก็ใส้กรองใหม่ ใส่หัวฉีดเข้ารางหัวฉีด เปลี่ยนหัวเทียนใหม่ แล้วลองสตาร์ท 1-2-3 ชึ่ง เครื่องติดเดินดี เดินเรียบ จากนั้นดับ และถ่ายน้ำมันเครื่องทิ้ง เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง แล้วค่อยลองสตาร์ทต่อเนื่องอีก
สรุปว่าเที่ยวนี้เสียทรัพย์ไปหลายบาท เพียงเพื่อแค่ให้เครื่องสตาร์ทติด และเลื่อนรถได้บ้าง
ยังงงกับตัวเองอยู่ว่าคุ้มหรือไม่ หรือจะหาที่ดองใหม่ให้ไม่เกะกะคันอื่นดี ?
วันหน้าผมจะเล่าให้ฟังเรื่องหัวฉีดอีก สำหรับขอวันนี้ลาไปก่อนครับ