D.I.Y. เย็บเบาะรถ
ผมเป็นหนึ่งในนั้น แต่ปัญหาในวันนี้ ไม่ได้เกิดจาก ความขัดข้องทางเครื่องยนต์กลไก หรืออะไรอย่างอื่น
แต่มันคือ หนู ..หนูสัตว์ฟันแทะที่ ไม่มีส่วนใดเป็นประโยชน์กับรถแม้แต่น้อย แต่มันกลับใช้ประโยชน์จากรถได้มากกว่าผม เพราะมันใช้รถผมทำบ้าน !!!
นับจากเอารถออกไปขับตอนเช้ามืด พอกลับมาตอนสว่าง
ก็เอะใจที่เบาะข้างๆมีเศษอะไร ปรากฏว่าเฮ้ย นี่แม่งขี้หนู นี่หว่า
ชิบหายแล้วหนูเข้ารถ แถมกัดเบาะ นี่คือมึงจะให้กูเก็บทั้งคันจริงๆใช่มั้ย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เบาะคู่หน้านี้เป็นเบาะที่ยกมาจาก Mitsubishi FTO ที่เป็นเบาะทรงสปอร์ตหน่อยๆ ซึ่งมันไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาคนเล่นรถ แต่มันพิเศษสำหรับผมคือ เป็นของขวัญวันเกิดที่น้องชายกับคุณแม่ ซื้อให้ในราคาราวๆ 4500 บาทเมื่อสมัยเรียน ม.4 ( ปัจจุบันอายุเกินครึ่งชีวิตแล้ว) นี่หละความพิเศษของเบาะคู่นี้ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดเปลี่ยน ไม่ว่าเพื่อนจะยุ หรือจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะหา recaro sparco bride หรือ อื่นๆตามสมัยนิยมมาใส่กัน เอาหละ ที่ต้องเกริ่นมาถึงจุดนี้เพราะจะบอกว่า ทำไมถึงต้องอนุรักษ์เบาะคู่นี้เอาไว้
ส่วนไอ้หนูนั่นยังหาตัวไม่ได้ ถ้าจับได้ผมตั้งใจไว้แล้วว่ามันจะต้องได้รับโทษเทียบเท่าขโมยรถของ John Wick
เอาหละในเมื่อเลือกสายอนุรักษ์ ก็ต้องมาดูพื้นฐานตัวเองกันหน่อย ผมมีจักรที่ซื้อให้แฟนไว้ตัวหนึ่ง และผมมักแอบลองเย็บ จนสุดท้ายเย็บบ่อยกว่าแฟน ผมสามารถเดินจักรได้ดีและตรง ผมสามารถเข้าใจหลักการเย็บผ้าเบื้องต้นได้ อาทิเคยลองตัดเย็บเสื้อกั๊กใส่เล่น ตัดผ้ากันเปื้อน ตัดนู่นนี่เล่นไปเรื่อย ดีบ้าง แย่บ้าง ตามประสาคนอยู่ไม่สุข
อุปกรณ์ที่ผมใช้มีดังนี้
จักรเย็บผ้าระดับ home use
ด้าย ที่เลาะผ้า กรรไกรเล็มด้าย กรรไกร เข็มหมุด กาวยาง ฟองน้ำ ใยโพลีเอสเตอร์ เข็มเย็บผ้า เข็มเย็บแบบโค้ง
ดินสอ และ ชอล์คเขียนผ้า และสุดท้ายผ้า
เมื่อตั้งใจจะเอาจริงกับมัน ก็ต้องวางแผนกันหน่อย ซึ่งประเมินเวลาเอาไว้ 1 อาทิตย์เต็ม โดยทำทุกคืนในช่วง 4 ทุ่ม ถึงตี 1
แต่ในความจริงนั้น ติดนู่นติดนี่ ทำให้กินเวลานานกว่าที่คิดไปสักหน่อย
ผมเริ่มจากการไปเสาะหาผ้าที่ร้านขายพวกหนังเทียม และผ้าหุ้มเบาะ ซึ่งสุดท้ายมาลงตัวที่ผ้าลายคล้ายๆของเดิมแต่มาจากค่ายโตโยต้าแทน เพราะถ้าเอาผ้าลาย recaro นั้นตกราวเมตรละ 800 ซึ่ง ผ้าที่ผมใช้แทนนี้ตกราวเมตรละ 400 ถูกกว่า แต่เนื้อหนากว่าใช้ผ้าทั้งหมด 3 เมตร และยังซื้อฟองน้ำกลับมาด้วย 1 ม้วน เพื่อเอามาซ่อมแซมส่วนของปีกเบาะที่เริ่มทรุดและฉีก
เมื่อของครบก็เริ่มรื้อเอาเบาะออกจากรถ ซึ่งขั้นตอนนี้เสียเวลาและวุ่นวายมาก เพราะต้องทำความสะอาดเบาะ แถมยังต้องมานั่งซักพรมในรถใหม่หมด กว่าจะได้เริ่มถอดตัวผ้าหุ้มเบาะมาดูจริงๆก็ปาเข้าไปอีกวันสองวัน เอาหละเบาะแห้งแล้วก็มารื้อมันซะที เบาะคู่นี้ดีอยู่อย่างตรงที่มีซิปข้างหลังสามารถเปิดออกมาได้
เมื่อเปิดไปแล้วก็จะต้องเอาคีมปากแหลมเล็กๆ กับไขควง งัดห่วงเหล็กที่รัดโครงลวดออก เพื่อให้ผ้าทั้งหมดหลุดออกจากตัวฟองน้ำ
ชิบหายแล้วหนูเข้ารถ แถมกัดเบาะ นี่คือมึงจะให้กูเก็บทั้งคันจริงๆใช่มั้ย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เบาะคู่หน้านี้เป็นเบาะที่ยกมาจาก Mitsubishi FTO ที่เป็นเบาะทรงสปอร์ตหน่อยๆ ซึ่งมันไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาคนเล่นรถ แต่มันพิเศษสำหรับผมคือ เป็นของขวัญวันเกิดที่น้องชายกับคุณแม่ ซื้อให้ในราคาราวๆ 4500 บาทเมื่อสมัยเรียน ม.4 ( ปัจจุบันอายุเกินครึ่งชีวิตแล้ว) นี่หละความพิเศษของเบาะคู่นี้ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดเปลี่ยน ไม่ว่าเพื่อนจะยุ หรือจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะหา recaro sparco bride หรือ อื่นๆตามสมัยนิยมมาใส่กัน เอาหละ ที่ต้องเกริ่นมาถึงจุดนี้เพราะจะบอกว่า ทำไมถึงต้องอนุรักษ์เบาะคู่นี้เอาไว้
ส่วนไอ้หนูนั่นยังหาตัวไม่ได้ ถ้าจับได้ผมตั้งใจไว้แล้วว่ามันจะต้องได้รับโทษเทียบเท่าขโมยรถของ John Wick
เอาหละในเมื่อเลือกสายอนุรักษ์ ก็ต้องมาดูพื้นฐานตัวเองกันหน่อย ผมมีจักรที่ซื้อให้แฟนไว้ตัวหนึ่ง และผมมักแอบลองเย็บ จนสุดท้ายเย็บบ่อยกว่าแฟน ผมสามารถเดินจักรได้ดีและตรง ผมสามารถเข้าใจหลักการเย็บผ้าเบื้องต้นได้ อาทิเคยลองตัดเย็บเสื้อกั๊กใส่เล่น ตัดผ้ากันเปื้อน ตัดนู่นนี่เล่นไปเรื่อย ดีบ้าง แย่บ้าง ตามประสาคนอยู่ไม่สุข
อุปกรณ์ที่ผมใช้มีดังนี้
จักรเย็บผ้าระดับ home use
ด้าย ที่เลาะผ้า กรรไกรเล็มด้าย กรรไกร เข็มหมุด กาวยาง ฟองน้ำ ใยโพลีเอสเตอร์ เข็มเย็บผ้า เข็มเย็บแบบโค้ง
ดินสอ และ ชอล์คเขียนผ้า และสุดท้ายผ้า
เมื่อตั้งใจจะเอาจริงกับมัน ก็ต้องวางแผนกันหน่อย ซึ่งประเมินเวลาเอาไว้ 1 อาทิตย์เต็ม โดยทำทุกคืนในช่วง 4 ทุ่ม ถึงตี 1
แต่ในความจริงนั้น ติดนู่นติดนี่ ทำให้กินเวลานานกว่าที่คิดไปสักหน่อย
ผมเริ่มจากการไปเสาะหาผ้าที่ร้านขายพวกหนังเทียม และผ้าหุ้มเบาะ ซึ่งสุดท้ายมาลงตัวที่ผ้าลายคล้ายๆของเดิมแต่มาจากค่ายโตโยต้าแทน เพราะถ้าเอาผ้าลาย recaro นั้นตกราวเมตรละ 800 ซึ่ง ผ้าที่ผมใช้แทนนี้ตกราวเมตรละ 400 ถูกกว่า แต่เนื้อหนากว่าใช้ผ้าทั้งหมด 3 เมตร และยังซื้อฟองน้ำกลับมาด้วย 1 ม้วน เพื่อเอามาซ่อมแซมส่วนของปีกเบาะที่เริ่มทรุดและฉีก
เมื่อของครบก็เริ่มรื้อเอาเบาะออกจากรถ ซึ่งขั้นตอนนี้เสียเวลาและวุ่นวายมาก เพราะต้องทำความสะอาดเบาะ แถมยังต้องมานั่งซักพรมในรถใหม่หมด กว่าจะได้เริ่มถอดตัวผ้าหุ้มเบาะมาดูจริงๆก็ปาเข้าไปอีกวันสองวัน เอาหละเบาะแห้งแล้วก็มารื้อมันซะที เบาะคู่นี้ดีอยู่อย่างตรงที่มีซิปข้างหลังสามารถเปิดออกมาได้
เมื่อเปิดไปแล้วก็จะต้องเอาคีมปากแหลมเล็กๆ กับไขควง งัดห่วงเหล็กที่รัดโครงลวดออก เพื่อให้ผ้าทั้งหมดหลุดออกจากตัวฟองน้ำ
ในตอนแรกก็วางแผนว่าจะทำการลอกแบบ
เพื่อสร้างแพทเทิร์นโดยใช้กระดาษแพทเทิร์น
และถุงพลาสติกใสวาดลวดลายตามรอยต่อของตะเข็บส่วนต่างเพื่อนำมาตัดบนผ้าใหม่
สำหรับใครที่ไม่รู้เรื่องผ้าอาจจะเข้าใจยากสักนิดต้องดูภาพครับ แต่ผลสรุปแล้วคือแบบที่ลอกออกมานั้นมันใหญ่เกินจริงไปเสียทั้งหมดเพราะผ้ามันให้ตัวได้ระดับนึง วิธีการนี้จึงไม่ได้เรื่องเสียแล้ว
แต่ในเมื่อตั้งใจแล้วก็ต้องไปให้ถึง ไม่งั้นมันก็เหมือนตั้งใจไปเที่ยวภูเขาแต่ไปสะดุดตรงจุดเก็บค่าธรรมเนียมอุทยาน ที่ต้องเสียเงิน 20-30 บาท แล้วบ่นแพง จะขับรถกลับทั้งๆที่ เค้าต้องมีค่าดูแลจิปาถะล้านแปด ตรงนี้ขอเหน็บนิดนึงหละวะ 555 เพราะชีวิตผมอยู่มาหลายวงการเห็นอะไรมาก็หลายแบบอ่ะนะ
โอเคเข้าเรื่องต่อ สุดท้ายทางออกที่ดีที่สุดคือการ เลาะแต่ละชิ้นออกมา งานยากสโลว์ไลฟ์มั้ยหละมึง ....
โอเคก็ค่อยๆเลาะ โดยเริ่มจากการเลาะเอาส่วนที่เป็นผ้าสีดำออกมาทั้งหมดก่อน
และตรงไหนเป็นรอยต่อเป็นจุดที่ต้องเย็บเชื่อมต่อกับอีกชิ้น ก็ใช้ ดินสอ เขียนเอาไว้ซึ่งดินสอเขียนผ้านี้สามารถลบได้ ซักได้ครับ ตรงไหนที่ต้องเจาะรูในตอนหลังเพื่อร้อยน๊อตก็เช่นกัน ทำเครื่องหมายเอาไว้ให้หมด จากนั้นก็นำแต่ละชิ้นมาทาบลงบนผ้าใหม่ แล้วเอาเข็มหมุด กลัดให้รอบค่อยตัดผ้า แนะนำสักนิดว่ากรรไกรตัดผ้าควรจะเป็น กรรไกรที่ยาวและมีด้านที่คล้องนิ้วด้านนึงแบบราบไปกับพื้นโต๊ะได้จะตัดได้เรียบลื่นกว่า รวมถึงควรเป็นกรรไกรที่ยังไม่เคยนำไปตัดวัสดุอื่นๆที่ไม่ใช่ผ้า ไม่เชื่อลองดูครับ มันคมต่างกันจริงๆ
หลังจากตัดผ้าแล้วก็เริ่มประกอบเข้าด้วยกัน ที่ละชิ้นโดยการใช้เข็มหมุดกลัดเข้าไปเป็นแนว และเริ่มเย็บโดยย้ำส่วนที่เริ่มเหมือนการเย็บผ้าทั่วไป ใครอยากลองขอแนะนำให้ลองเย็บอย่างอื่นจนเริ่มชินก่อนค่อยมาเย็บเบาะนะเพราะมันซับซ้อนกว่าการเย็บงานง่ายๆพอสมควร
ต่อมาในส่วนลายผ้าตรงกลางเบาะที่จะเอาของเดิมมาใช้นั้น ก็ต้องจัดการเลาะมาอย่างระมัดระวัง และ ถือโอกาสซ่อมร่องรอยต่างๆไปในตัวอาทิ รอยบุหรี่ ก็ทำการชุนใหม่ ให้แลดูเนียนๆกันไป ชุนคือเย็บด้ายเข้าไปใหม่ให้และดูเหมือนผ้า ต่างกับปะคือเอาผ้ามาปะแล้วเย็บเข้าไป
สำหรับใครที่ไม่รู้เรื่องผ้าอาจจะเข้าใจยากสักนิดต้องดูภาพครับ แต่ผลสรุปแล้วคือแบบที่ลอกออกมานั้นมันใหญ่เกินจริงไปเสียทั้งหมดเพราะผ้ามันให้ตัวได้ระดับนึง วิธีการนี้จึงไม่ได้เรื่องเสียแล้ว
แต่ในเมื่อตั้งใจแล้วก็ต้องไปให้ถึง ไม่งั้นมันก็เหมือนตั้งใจไปเที่ยวภูเขาแต่ไปสะดุดตรงจุดเก็บค่าธรรมเนียมอุทยาน ที่ต้องเสียเงิน 20-30 บาท แล้วบ่นแพง จะขับรถกลับทั้งๆที่ เค้าต้องมีค่าดูแลจิปาถะล้านแปด ตรงนี้ขอเหน็บนิดนึงหละวะ 555 เพราะชีวิตผมอยู่มาหลายวงการเห็นอะไรมาก็หลายแบบอ่ะนะ
โอเคเข้าเรื่องต่อ สุดท้ายทางออกที่ดีที่สุดคือการ เลาะแต่ละชิ้นออกมา งานยากสโลว์ไลฟ์มั้ยหละมึง ....
โอเคก็ค่อยๆเลาะ โดยเริ่มจากการเลาะเอาส่วนที่เป็นผ้าสีดำออกมาทั้งหมดก่อน
และตรงไหนเป็นรอยต่อเป็นจุดที่ต้องเย็บเชื่อมต่อกับอีกชิ้น ก็ใช้ ดินสอ เขียนเอาไว้ซึ่งดินสอเขียนผ้านี้สามารถลบได้ ซักได้ครับ ตรงไหนที่ต้องเจาะรูในตอนหลังเพื่อร้อยน๊อตก็เช่นกัน ทำเครื่องหมายเอาไว้ให้หมด จากนั้นก็นำแต่ละชิ้นมาทาบลงบนผ้าใหม่ แล้วเอาเข็มหมุด กลัดให้รอบค่อยตัดผ้า แนะนำสักนิดว่ากรรไกรตัดผ้าควรจะเป็น กรรไกรที่ยาวและมีด้านที่คล้องนิ้วด้านนึงแบบราบไปกับพื้นโต๊ะได้จะตัดได้เรียบลื่นกว่า รวมถึงควรเป็นกรรไกรที่ยังไม่เคยนำไปตัดวัสดุอื่นๆที่ไม่ใช่ผ้า ไม่เชื่อลองดูครับ มันคมต่างกันจริงๆ
หลังจากตัดผ้าแล้วก็เริ่มประกอบเข้าด้วยกัน ที่ละชิ้นโดยการใช้เข็มหมุดกลัดเข้าไปเป็นแนว และเริ่มเย็บโดยย้ำส่วนที่เริ่มเหมือนการเย็บผ้าทั่วไป ใครอยากลองขอแนะนำให้ลองเย็บอย่างอื่นจนเริ่มชินก่อนค่อยมาเย็บเบาะนะเพราะมันซับซ้อนกว่าการเย็บงานง่ายๆพอสมควร
ต่อมาในส่วนลายผ้าตรงกลางเบาะที่จะเอาของเดิมมาใช้นั้น ก็ต้องจัดการเลาะมาอย่างระมัดระวัง และ ถือโอกาสซ่อมร่องรอยต่างๆไปในตัวอาทิ รอยบุหรี่ ก็ทำการชุนใหม่ ให้แลดูเนียนๆกันไป ชุนคือเย็บด้ายเข้าไปใหม่ให้และดูเหมือนผ้า ต่างกับปะคือเอาผ้ามาปะแล้วเย็บเข้าไป
เมื่อซ่อมแล้วก็ประกอบชิ้นกลางเข้าไปซึ่งในบางส่วนนั้น
ไม่สามารถที่จะเย็บด้วยจักรได้อาจเป็นเพราะมุมมันไม่อำนวย หรือ
ผ้ามันซ้อนกันหลายทบจน ตีนผีไม่สามารถตะกุยผ้าเข้าได้แล้ว ก็ต้องมาเย็บเก็บด้วยมือ
โดยจะใช้เข็มตรงธรรมดา และเข็มโค้ง
อีกงานหนึ่งที่ต้องทำคือเลาะเอาซิปที่ยาวระดับเมตรนิดๆมาใส่ในด้านหลังเบาะ
ซึ่งเดชะบุญผมมีตีนผีที่ใช้ใส่ซิปได้เลยทำให้งานเย็บซิปทำได้สวยงามเป็นระเบียบไปในตัว
ในส่วนของตัวเบาะที่ปีกทรุด
ฟองน้ำยุบก็จัดการเสียใหม่โดยการตัดเอาส่วนที่มีปัญหาปริแตกออก ตัดฟองน้ำใหม่เป็นแท่งๆแล้วติดฟองน้ำใหม่เข้าไปด้วยกาวยาง
จากนั้นค่อยตัดแต่งให้ได้รูปที่ต้องการ ขั้นตอนนี้ต้องอดทนรอกาวสักนิด
ค่อยๆทำจนได้รูปทรงที่ต้องการครับ
ขั้นตอนต่างๆที่กล่าวมานั้น
ในการทำงานจริงวุ่นวายมากสักหน่อยเพราะต้องทาบต้องถอดๆใส่ๆอยู่หลายครั้งกว่าจะได้งานที่ออกมาดี
ซึ่งสุดท้ายก็ยังไม่ได้ดีสมใจนัก
แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าเบาะเดิมที่ทรุดมากและผ้าขาดหลายจุดแล้ว
ก่อนจะมีหนูมาซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก โดยสรุปแล้ว ให้คะแนนตัวเองแค่ 8 เพราะยังมีบางส่วนของเบาะที่ผ้ามันเหลืออยู่บ้างแอบไม่สวย แต่โดยรวมก็ได้อยู่นะ คือดีกว่าของเดิมตอนเบาะทรุด ผ้าขาดๆย้วยๆเป็นอันมาก สุดท้ายมันก็กลับไปอยู่ในรถเหมือนเดิมเรียบร้อย เชิญทัศนาก่อนจะลาจากแบบ ......จบบริบูรณ์
หมายเหตุ หนูทดลองในวันนี้คือ
- Honda Accord 1990 (ตาเพชร)